พูดถึงหนังเรื่อง LIFE OF PI (ชีวิตบักหำพาย)

กราวสวัสดีเพื่อน ๆ ชาว MESISE กันก่อนนะครับ วันนี้อาจจะเป็นอันแรกที่ผมได้พูดถึงหนังเรื่องนึงที่ผมได้ไปดูมาช่วงก่อนปีใหม่
แล้วรู้สึกประทับใจมาก ๆ มากกว่าหนังเรื่อง THE HOBBIT อีก ก็คือหนังเรื่อง ชีวิตอัศจรรย์ของพาย

life-of-pi-poster

ดูจากโปสเตอร์ก็คงมีคนคิดเหมือนผมแน่ ๆ เลยว่าคนกับเสือมันมาเกี่ยวอะไรกับหนัง หรือเสือมันคงจะเชื่อง ๆ แล้วมาอยู่กับคน แล้วมาอยู่บนเรือทำไม
หรือว่ามันจะคล้าย ๆ กับหนังเรื่องตินติน อะไรแบบนั้นอ่ะเปล่้าที่มีน้องหมาเป็นเพื่อน แต่อันนี้มีเสือเป็นเพื่อน

พอผมได้ไปดูที่เมเจอร์รัชโยธิน ในระบบสามมิติ เปิดเรื่องมาก็อยู่ในสวนสัตว์ ภาพแต่ละภาพบรรยายไป สวยทุกภาพครับ บอกได้คำเดียวว่าสวยทุกภาพ
เต็มอิ่มทุกอัน ยิ่ง + กับความเป็นสามมิติ เข้าไปแล้วด้วยนะครับ ยิ่งทำให้เห็นได้เลยว่า เออมันสวยมีระยะ เหมือนกำลังอยู่ในนั้น ไม่มีมาดูแล้วแบบปวดตา
ผมว่าหมดหยุดหนังสามมิติที่ดูแล้วปวดตาแบบอดีตที่ผ่าน ๆ มาสำหรับบางเรื่อง ได้เห็นชีวิตของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่เกิดในครอบครัวชาวอินเดียสมัยใหม่ที่ไม่เชื่อ
แบบคนพื้นเมืองทั่ว ๆ ไป เชื่อในวิทยาศาสตร์อะไรทำนองนั้น ซึ่งหนังเรื่องนี้เองก็เป็นหนังเล่าจากอนาคต คือเล่าจากชีวิตของคนที่ชื่อว่าพาย ตอนที่โตแล้วเล่าให้
นักเขียนหนุ่มคนนึง ชื่ออะไรก็ไม่รู้จำไม่ได้ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือของเค้าเอง

เรื่องก็ดำเนินไปว่า ชื่อ “พาย” มาได้ยังไง มาจาก พายที่มีค่า 3.14 ในการหาพื้นที่วงกลมนั้นและครับ

ดูจากลักษณะของเด็กที่ชื่อว่าพายก็เป็นคนที่มีศรัทธาต่อสิ่งสักศักธิ์ ทั้งในแบบพื้นเมืองและแบบที่เข้ามาในประเทศของเค้าเอง ในหนังก็มี คริสต์ และอิสลาม หนังปูพื้นเรื่องให้เห็นว่า เด็กผู้ชายคนนี้เป็นคนที่มีศรัทธานะ ไม่ได้เหมือนกับในครอบครัวของเค้า ที่เชื่อในวิทยาศาสตร์ เหมือนเป็นคนขวางโลก พ่อของพายเค้าก็สอนอะไรหลาย ๆ อย่างให้กับพาย ล้วนแล้วแต่มีความหมายดี ๆ และในตอนเด็กนี้เองที่พายได้พบกับริชาร์ด ปากเกอร์ เสือเบงกอหนุ่ม ที่เกือบจะงับมือของพายไปแล้วดีที่พ่อของเค้าช่วยเอาไว้ได้ทัน และบอกกับพายว่า ริชาร์ดปากเกอร์ ไม่มีทางเป็นเพื่อนของพายได้ ซึ่งคำพูดนี้จะไปสะท้อนในตอนจบ

หลังจากโตมาเป็นหนุ่ม แบบที่เห็นในหน้าโปสเตอร์แล้ว ก็พบความรักกับอนานดี และอะไรมากมายผมไม่เล่าละกัน จนมาเกิดเรื่องว่า พ่อของเค้าจะขายสวนสัตว์และกิจการเพื่อจะที่เดินทางไปแคนนาดา หรืออเมริกาเนี้ยและ 55 แอบลืม

เค้าก็ลงเรือลำที่เห็นในตัวอย่างหนังนั้นและครับ แล้วเกิดเหตุเรืออับปาง เพราะพายมันไปยืนดูพายุหรือไงก็ไม่ทราบ แต่เอาเป็นว่ามันอับปาง แล้วพายก็ทำอะไรไม่ได้ จะวิ่งเข้าไปช่วยพ่อแม่ พี่ตัวเองที่ติดอยู่ในที่พัก ก็ไม่ได้อะไรแบบนั้น เค้าก็ลงมาเจอแก๊งคนบนเรือ มีพ่อครัว กลาสี และใครอีกไม่รู้จำไม่ได้ แต่พวกนั้นโยนพายลงไปก่อน แล้วมีม้าลายวิ่งมาจากไหนไม่รู้กระโดลงเรือไปทำให้เชือกที่ผูกอยู่ขาด ก็ตกลงทะเลไปด้วยกันตามนั้นพายุก็รุนแรงมาก ๆ กว่าจะสงบได้่ก็ใช้เวลานานละเกิน แล้วก็มีฉากที่สวยก็คือพายตกลงไปในน้ำทะเลเห็นเรือกำลังจม เหมือนไทนานิคเลยความรู้สึกแต่ไฟไม่ดับมันสว่างไปทั้งทะเล ดูแล้วหน้าประทับใจ กับความหายนะเหลือเกิน ฮึฮึ

ที่เหลือมันจะเหล่าอย่างสั้น ๆ ละกันครับว่า พอเหตุการณ์สงบ ก็มีแน่นอนละม้าลายหนึ่งตัว อยู่ดี ๆ ก็มีไฮยีน่า ลิงอุลังอุตัง แล้วก็ตามประสาสัตว์มันหิว ไอ้เจ้าไฮยีน่าก็ไปกินม้าลาย ลิงอุลังอุตังก็ไม่พอใจ โวยวาย เจ้าไฮยีน่าก็เลยกัดลิงอุลังอุตังตาย และเหมือนจตะหันมากัดพาย ก็มีเสือกระโดดพรวดออกไปกัดไฮยีน่าตายคาที่ไป ฮ่ะ ๆ พายก็ตกใจ นี้คือที่มาแบบไม่สมเหตุสมผลเลย 555 ตอนแรกดูก็งง ๆ อะไรของมันไม่เอายีราฟมาด้วยเลยละ แหม ขนาดนี้แล้วก็ แต่ความจริงแล้วมันมีนัยยะครับ แบบว่า โฮ้….. ขนาดนี้เลยเหรอ ช่วงที่เหลือของหนังก็คือ พายต้องต่อสู้กับการเอาชีวิตรอด กับเจ้าเสือ และมีฉากที่สวย ๆ อีกเยอะแยะเลยครับ ว่าคิดว่าผมไม่เล่าดีกว่า ผมจะกระโดดไปตอนจบเลย

ตอนจบก็คือพายกับเจ้าริชาร์ดปากเกอร์ก็รอดตายมาได้แบบผอมโซ มาเกยอยู่ที่หาดในประเทศเม็กซิโกหรือยังไงเนี้ยและครับ เจ้าริราช์ดก็ขึ้นฝั่งแล้วไม่กลับมาอีกเลยส่วนพายก็มีคนมาช่วยรอดตายไปได้ และมาเริ่มอีกทีก็อยู่ที่โรงพยาบาล มีประกันของเรือมาคุยด้วย แล้วพายก็เล่าให้ฟังว่าไปเจอนู้นนี้นั้นมา ตามที่เห็นในเรือคือมีเสือ มีลิงมีอะไรนั้นและ แล้วก็รอดตายมาได้ แต่ประกันก็ม่เชื่อ พายก็เลยเล่าเรื่องใหม่ว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุการที่เล่าก็ต่างออกไป คือคนที่ลงเรือมี พาย แม่ของพาย กะลาสีขาหักและ พ่อครัว พ่อครัวจับหนูบนเรือมากิน กลาสีขาหักเจ็บไม่ไหวแล้ว พ่อครัวเลยฆ่าแล้วเอามากิน แต่ พายและแม่รับไม่ได้ แม่เลยมีปากเสียงกับพ่อครัว พ่อครัวเลยฆ่า พายเห็นดังนั้นก็ทำให้ความชั่วร้ายในตัวออกมา พายเลยฆ่าพ่อครัวแล้วอยู่คนเดียวหนังจากนั้น จนกระทั่งมาเกยฝั่ง

คุณคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นยังไงหน้าดูไหมละครับ ถ้าไม่มองที่ความแฟนตาซีเนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้ก็สนุกมาๆ  เลย โดยเฉพาะการเฉลยเรื่องตอนจบ ผมมารู้สึกว่าอ๋อ มันเป็นแบบนี้ นี้เองก็ตอนที่ นักเขียนหนุ่มถามพายว่า กลาสีคือม้าลายใช่ไหม ลิงอุลังอุตังคือ แม่คุณใช่ไหม ส่วนไฮยีน่าคือพ่อครัว แล้วเสือก็คุณเอง

พายเค้าเลยถามกลับไปว่า คุณชอบเรื่องไหนมากกว่ากัน ระหว่าง เสือ กับ พาย

นักเขียนเค้าเลยบอกว่าชอบแบบเรืองเสือมากกว่า มันดูสนุกกว่าอะไรประมาณนั้น

ผมเลยสรุปได้เลยครับว่า หนังเรืองนี้สอดแทรกอะไรไว้มากมาย และการที่พายต้องต่อสู้กับเสือนั้น จริง ๆ มันเป็นแค่นามธรรมที่เราต้องต่อสู้กับความชั่วร้ายในตัวเราเอง เหมือนกับปีศาจที่คอยยุให้เราทำชั่วอะไรแบบนั้น แต่ในหนังเอาให้เห็นเป็นตัวเป็นตนหน่อย และความชั่วร้ายก็ต้องสยบด้วยการสั่งสอนก็เหมือนกับการที่เราต้องไปโรงเรียนไปเรียนวิชาจริยธรรมอะไรคือความดี อะไรคือความชั่วประมาณนั้นเลยครับ การที่ตอนหลังพายและเสืออยู่ร่วมกันได้ ก็คือถ้าเราสามารถควบคุมความชั่วของตัวเองได้แล้ว มันก็จะยอมเรา แต่หนังเพิ่มความเป็นแฟนตาซีเข้าไปซะเยอะถ้าใครไม่ละเอียดอ่อนพอก็อาจจะไม่เข้าใจถึงจุดนี้ได้่ และที่สำคัญคือหนังเรื่องนี้เปรียบเทียบความเชื่อของศาสนาเอาไว้ด้วยถ้าคุณมองมันออก คือทั้งสองเรืองบอกเหตุการณ์ว่าเค้ารอดมาได้ยังไง แต่ไม่ได้บอกเลยครับว่าทำไมเรือถึงอับปาง ฉะนั้นศาสนาก็คล้าย ๆ มีคำสอนมีนู้นนี้นั้น แต่ผลที่สุดก็คือเหมือนกัน เพียงเปลี่ยนตัวละคร เปลี่ยนอะไรไป มันอยู่ที่ตัวคุณนั้นแหละครับว่าชอบแบบไหน ฉะนั้นเราจะไปบอกว่า นั้นไม่ดี ฉันดีกว่าแบบนั้นก็คงไม่ดี ทำใจเป็นกลางไว้ดีกว่าครับ เชื่อในสิ่งที่ชอบ

 

นิติคุณ ยุกตะนันท์

www.mesise.com

เพลงประกอบหนัง

 

เ้บื้องหลัง

ใส่ความเห็น